ภาวะโลกร้อน หมายถึง ภาวะที่อุณหภูมิโดยเฉลี่ยของโลกสูงขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง ภาวะโลกร้อนอาจจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของปริมาณฝน ระดับน้ำทะเล และมีผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อพืช สัตว์ และมนุษย์
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน
ปรากฏการณ์ทั้งหลายเกิดจากภาวะโลกร้อนขึ้นที่มีมูลเหตุมาจากการปล่อยก๊าซพิษต่าง ๆ จากโรงงานอุตสาหกรรม ทำให้แสงอาทิตย์ส่องทะลุผ่านชั้นบรรยากาศมาสู่พื้นโลกได้มากขึ้น ซึ่งนั่นเป็นที่รู้จักกันโดยเรียกว่า สภาวะเรือนกระจก
พลังงานจากดวงอาทิตย์เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า มีทั้งรังสีคลื่นสั้นและคลื่นยาว บรรยากาศของโลกทำหน้าที่ปกป้องรังสีคลื่นสั้นไม่ให้ลงมาทำอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตบนพื้นโลกได้ โมเลกุลของก๊าซไนโตรเจนและออกซิเจนในบรรยากาศชั้นบนสุดจะดูดกลืนรังสีแกมมาและรังสีเอ็กซ์จนทำให้อะตอมของก๊าซในบรรยากาศชั้นบนมีอุณหภูมิสูง และแตกตัวเป็นประจุ (บางครั้งเราเรียกชั้นบรรยากาศที่เต็มไปด้วยประจุนี้ว่า "ไอโอโนสเฟียร์" มีประโยชน์ในการสะท้อนคลื่นวิทยุสำหรับการสื่อสาร) รังสีอุลตราไวโอเล็ตสามารถส่องผ่านบรรยากาศชั้นบนลงมา แต่ถูกดูดกลืนโดยก๊าซโอโซนในชั้นสตราโตสเฟียร์ที่ระยะสูงประมาณ 19 - 48 กิโลเมตร แสงแดดหรือแสงที่ตามองเห็นสามารถส่องลงมาถึงพื้นโลก รังสีอินฟราเรดถูกดูดกลืนโดยก๊าซเรือนกระจก เช่น ไอน้ำและคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นโทรโปสเฟียร์ ส่วนคลื่นไมโครเวฟและคลื่นวิทยุในบางความถี่สามารถส่องทะลุชั้นบรรยากาศได้
สำหรับ บรรยากาศของโลกประกอบด้วยก๊าซไนโตรเจน 78% ก๊าซออกซิเจน 21% ก๊าซอาร์กอน 0.9% นอกนั้นเป็นไอน้ำ และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนเล็กน้อย แม้ว่าไนโตรเจน ออกซิเจน และอาร์กอนจะเป็นองค์ประกอบหลักของบรรยากาศ แต่ก็มิได้มีอิทธิพลต่ออุณหภูมิของโลก ในทางตรงกันข้ามก๊าซโมเลกุลใหญ่ เช่น ไอน้ำ คาร์บอนไดออกไซด์ และมีเทน แม้จะมีอยู่ในบรรยากาศเพียงเล็กน้อย กลับมีความสามารถในการดูดกลืนรังสีอินฟราเรด และมีอิทธิพลทำให้อุณหภูมิของโลกอบอุ่น เราเรียกก๊าซพวกนี้ว่า "ก๊าซเรือนกระจก" (Greenhouse gas) เนื่องจากคุณสมบัติในการเก็บกักความร้อน หากปราศจากก๊าซเรือนกระจกแล้ว พื้นผิวโลกจะมีอุณหภูมิเพียง -18 องศาเซลเซียส ซึ่งนั่นก็หมายความว่าน้ำทั้งหมดบนโลกนี้จะกลายเป็นน้ำแข็ง
เราจะมีส่วนช่วยคลายภาวะโลกร้อนได้อย่างไร
1.ลดการสูญเสียพลังงานในโหมดสแตนด์บาย เครื่องเสียงระบบไฮไฟ โทรทัศน์ เครื่องบันทึกวิดีโอ คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและอุปกรณ์พ่วงต่างๆ ที่ติดมาด้วยการดึงปลั๊กออก หรือใช้ปลั๊กเสียบพ่วงที่ตัดไฟด้วยตัวเอง
2.เปลี่ยนหลอดไฟ เป็นหลอดไฟประหยัดพลังงานแบบขดที่เรียกว่า Compact Fluorescent Lightbulb (CFL) เพราะจะกินไฟเพียง 1 ใน 4 ของหลอดไฟเดิม และมีอายุการใช้งานได้นานกว่าหลายปีมาก
เ3.ปลี่ยนไปใช้ไฟแบบหลอด LED จะได้ไฟที่สว่างกว่าและประหยัดกว่าหลอดปกติ 40% สามารถหาซื้อหลอดไฟ LED ที่ใช้สำหรับโคมไฟตั้งโต๊ะและตั้งพื้นได้ด้วย จะเหมาะกับการใช้งานที่ต้องการให้มีแสงสว่างส่องทาง เช่น ริมถนนหน้าบ้าน การเปลี่ยนหลอดไฟจากหลอดไส้จะช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 150 ปอนด์ต่อปี
4.ช่วยกันออกความเห็นหรือรณรงค์ให้รัฐบาลพิจารณาข้อดีข้อเสียของการเรียกเก็บภาษีคาร์บอนกับภาคการผลิต ตามอัตราการใช้ไฟฟ้าที่ผลิตจากเชื้อเพลิงฟอสซิลรูปแบบต่างๆ หรือการใช้ก๊าซโซลีน เป็นรูปแบบการใช้ภาษีทางตรงที่เชื่อว่า หากโรงงานต้องจ่ายค่าภาษีแพงขึ้นก็จะลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลในกระบวนการผลิตลง ซึ่งจะช่วยลดปริมาณการปล่อย CO2 ลงได้ประมาณ 5%
5.ขับรถยนต์ส่วนตัวให้น้อยลง ด้วยการปั่นจักรยาน ใช้รถโดยสารประจำทาง หรือใช้การเดินแทนเมื่อต้องไปทำกิจกรรมหรือธุระใกล้ๆ บ้าน เพราะการขับรถยนต์น้อยลง หมายถึงการใช้น้ำมันลดลง และลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ด้วย เพราะน้ำมันทุกๆ แกลลอนที่ประหยัดได้ จะลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 20 ปอนด์
6.ไปร่วมกันประหยัดน้ำมันแบบ Car Pool นัดเพื่อนร่วมงานที่มีบ้านอาศัยใกล้ๆ นั่งรถยนต์ไปทำงานด้วยกัน ช่วยประหยัดน้ำมัน และยังเป็นการลดจำนวนรถติดบนถนน ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ทางอ้อมด้วย
7.จัดเส้นทางรถรับส่งพนักงาน ถ้าในหน่วยงานมีพนักงานจำนวนมากอาศัยอยู่ในเส้นทางใกล้ๆ กัน ควรมีสวัสดิการจัดหารถรับส่งพนักงานตามเส้นทางสำคัญๆ เป็น Car Pool ระดับองค์กร
8.เปิดหน้าต่างรับลมแทนเปิดเครื่องปรับอากาศ ลดการปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากการใช้ไฟฟ้าเพื่อเปิดเครื่องปรับอากาศ
9.มองหาผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม เช่น ป้ายฉลากเขียว ประหยัดไฟเบอร์ 5 มาตรฐานผลิตภัณฑ์คุณภาพสินค้าเกษตรอินทรีย์ เพราะการจะได้ใบรับรองนั้น จะต้องมีการประเมินสินค้าตั้งแต่เริ่มต้นหาวัตถุดิบ
10.ไปตลาดสดแทนซูเปอร์มาร์เก็ตบ้าง ซื้อผัก ผลไม้ หมู ไก่ ปลา ในตลาดสดใกล้บ้าน แทนการช็อปปิ้งในซูเปอร์มาร์เก็ตบ้าง ที่อาหารสดทุกอย่างมีการหีบห่อด้วยพลาสติกและโฟม ทำให้เกิดขยะจำนวนมาก
11.เลือกซื้อเลือกใช้ เมื่อต้องซื้อรถยนต์ใช้ในบ้าน หรือรถยนต์ประจำสำนักงานก็หันมาเลือกซื้อรถประหยัดพลังงาน รวมทั้งเลือกอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดไฟ ทั้งในบ้านและอาคารสำนักงาน
12.เลือกซื้อรถยนต์ที่มีขนาดตามความจำเป็น โดยพิจารณาจากขนาดครอบครัวและประโยชน์การใช้งาน รวมทั้งพิจารณารุ่นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุด เพื่อเปรียบเทียบราคา
13.ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องเลือกรถโฟว์วีลขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ เพราะกินน้ำมันมาก และตะแกรงขนสัมภาระบนหลังคารถก็ไม่ใช่สิ่งจำเป็น เพราะเป็นการเพิ่มน้ำหนักรถให้เปลืองน้ำมัน
14.ขับรถอย่างมีประสิทธิภาพ ในระยะทางไกลการขับรถด้วยความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะช่วยลดการใช้น้ำมันลงได้ 20% หรือคิดเป็นปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่ลดได้ 1 ตันต่อรถยนต์แต่ละคันที่ใช้งานราว 3 หมื่นกิโลเมตรต่อปี
15.ขับรถเที่ยวไปลดคาร์บอนไดออกไซด์ไปพร้อมกัน เพราะมีบริษัทเช่ารถใหญ่ๆ 2-3 รายมีรถรุ่นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่ใช้เอทานอล หรือน้ำมันเชื้อเพลิงทางเลือกอื่นๆ ด้วย ลองสอบถามบริษัทรถเช่าเมื่อเดินทางไปถึง
16.เลือกใช้บริการโรงแรมที่มีสัญลักษณ์สิ่งแวดล้อม เช่น มีมาตรการประหยัดน้ำ ประหยัดพลังงาน และมีระบบจัดการของเสีย มองหาป้ายสัญลักษณ์ เช่น โรงแรมใบไม้สีเขียว มาตรฐานผลิตภัณฑ์คุณภาพ
17.เช็กลมยาง การขับรถที่ยางลมมีน้อยอาจทำให้เปลืองน้ำมันได้ถึง 3% จากภาวะปกติ
เปลี่ยนมาใช้พลังงานชีวภาพ เช่น ไบโอดีเซล เอทานอล ให้มากขึ้น
18.โละทิ้งตู้เย็นรุ่นเก่า ตู้เย็นที่ผลิตเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว เพราะใช้ไฟฟ้ามากเป็น 2 เท่าของตู้เย็นสมัยใหม่ที่มีคุณภาพสูง ซึ่งช่วยประหยัดค่าไฟลงได้มาก และลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 100 กิโลกรัมต่อปี
19.ยืดอายุตู้เย็นด้วยการใช้ประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดพลังงานให้ตู้เย็นด้วยการใช้อย่างฉลาด ไม่นำอาหารร้อนเข้าตู้เย็น หลีกเลี่ยงการนำถุงพลาสติกใส่ของในตู้เย็น เพราะจะทำให้ตู้เย็นจ่ายความเย็นได้ไม่ทั่วถึงอาหาร ควรย้ายตู้เย็นออกจากห้องที่ใช้เครื่องปรับอากาศ ละลายน้ำแข็งที่เกาะในตู้เย็นเป็นประจำ เพราะตู้เย็นจะกินไฟมากขึ้นเมื่อมีน้ำแข็งเกาะ และทำความสะอาดตู้เย็นทุกสัปดาห์
20.ริเริ่มใช้พลังงานทางเลือกในอาคารสำนักงาน เช่น ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ในการผลิตกระแสไฟฟ้าเฉพาะจุด
ใช้แสงแดดให้เป็นประโยชน์ ในการตากเสื้อผ้าที่ซักแล้วให้แห้ง ไม่ควรใช้เครื่องปั่นผ้าแห้งหากไม่จำเป็น เพื่อประหยัดการใช้ไฟฟ้า
ใช้น้ำประปาอย่างประหยัด เพราะระบบการผลิตน้ำประปาของเทศบาลต่างๆ ต้องใช้พลังงานจำนวนมากในการทำให้น้ำสะอาด และดำเนินการจัดส่งไปยังอาคารบ้านเรือน
21.ติดตั้งฝักบัวอาบน้ำที่ปรับความแรงน้ำต่ำๆ ได้ เพื่อจะได้เปลืองน้ำอุ่นน้อยๆ (เหมาะทั้งในบ้านและโรงแรม)
วันพฤหัสบดีที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
ครั้งที่ 5 สะท้อนงานกลุ่ม
งานกลุ่มที่ทำออกมานั้น ตัวอักษรเล็กเกินไป และที่สำคัญสมาชิกในกลุ่มยังมาไม่พร้อม งบประมาณในการทำ ก็ยังไม่ชัดเจนเท่าที่ควร ขอบคุณอาจารย์ที่ให้คำแนะนำ แนวทาง ในการปฏิบัติครั้งต่อไป
วันอังคารที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

หลักการและเหตุผล
ปัจจุบันนี้ทัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบนโลกได้ถูกทำลายด้วยน้ำมือของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการบุกรุกทำลายป่า หรือการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากโรงงานและยานยนต์ ประกอบกับจำนวนประชากรของโลกเพิ่มขึ้น จึงทำให้นำทรัพยากรธรรมชาติมาใช้เพิ่มขึ้น ทรัพยากรธรรมชาติจึงค่อย ๆหมดไป มนุษย์จึงหาสิ่งต่างๆ มาทดแทนทรัพยากรธรรมชาติหลายรูปแบบ ตัวอย่างที่เห็นได้ในชีวิตประจำวันของเรา คือ การใช้พลาสติกเป็นบรรจุภัณฑ์แทนกระดาษ ใบตอง เป็นต้น และใช้ ถุงพลาสติก กล่องพลาสติกกล่องโฟม ในการบรรจุสิ่งของอุปโภคบริโภค ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถย่อยสลายได้รวดเร็ว เหมือนกระดาษ ใบตอง การย่อยสลายพลาสติกด้วยความร้อนทำให้เกิดภาวะเรือนกระจก ก่อให้เกิดสภาวะโลกร้อน สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงด้วยเหตุนี้ข้าพเจ้านักศึกษาสาขาวิชาการศึกษาปฐมวัยชั้นปีที่ 3. จึงจัดทำโครงการแม่ลูกช่วยกันระบายสีถุงผ้าลดโลกร้อนขึ้น โดยให้ผู้ปกครองร่วมกับเด็กนักเรียนช่วยกันตกแต่งถุงผ้า เพื่อให้เด็กได้ใช้ประโยชน์ในการใส่สิ่งของมาโรงเรียน เช่น ขวดน้ำ หรือสิ่งของอื่นๆ แทนถุงพลาสติก นอกจากนี้การทำถุงผ้ายังเป็นการช่วยลดปัญหาโลกร้อนและสร้างสัมพันธภาพที่ดีระหว่างบุคคลในครอบครัวอีกด้วย
ปัจจุบันนี้ทัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบนโลกได้ถูกทำลายด้วยน้ำมือของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการบุกรุกทำลายป่า หรือการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากโรงงานและยานยนต์ ประกอบกับจำนวนประชากรของโลกเพิ่มขึ้น จึงทำให้นำทรัพยากรธรรมชาติมาใช้เพิ่มขึ้น ทรัพยากรธรรมชาติจึงค่อย ๆหมดไป มนุษย์จึงหาสิ่งต่างๆ มาทดแทนทรัพยากรธรรมชาติหลายรูปแบบ ตัวอย่างที่เห็นได้ในชีวิตประจำวันของเรา คือ การใช้พลาสติกเป็นบรรจุภัณฑ์แทนกระดาษ ใบตอง เป็นต้น และใช้ ถุงพลาสติก กล่องพลาสติกกล่องโฟม ในการบรรจุสิ่งของอุปโภคบริโภค ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถย่อยสลายได้รวดเร็ว เหมือนกระดาษ ใบตอง การย่อยสลายพลาสติกด้วยความร้อนทำให้เกิดภาวะเรือนกระจก ก่อให้เกิดสภาวะโลกร้อน สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงด้วยเหตุนี้ข้าพเจ้านักศึกษาสาขาวิชาการศึกษาปฐมวัยชั้นปีที่ 3. จึงจัดทำโครงการแม่ลูกช่วยกันระบายสีถุงผ้าลดโลกร้อนขึ้น โดยให้ผู้ปกครองร่วมกับเด็กนักเรียนช่วยกันตกแต่งถุงผ้า เพื่อให้เด็กได้ใช้ประโยชน์ในการใส่สิ่งของมาโรงเรียน เช่น ขวดน้ำ หรือสิ่งของอื่นๆ แทนถุงพลาสติก นอกจากนี้การทำถุงผ้ายังเป็นการช่วยลดปัญหาโลกร้อนและสร้างสัมพันธภาพที่ดีระหว่างบุคคลในครอบครัวอีกด้วย

วัตถุประสงค์
1. ส่งเสริมให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของการช่วยกันลดภาวะโลกร้อน
2. เพื่อสร้างสัมพันธภาพที่ดีภายในครอบครัว
3. เด็กนักเรียนมีความภาคภูมิใจในผลงานที่ร่วมกันทำกับผู้ปกครอง
4. สามารถนำถุงผ้ามาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้
เป้าหมายด้านปริมาณ
ผู้ปกครองนักเรียนชั้นอนุบาล2 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษมเข้าร่วมโครงการจำนวน 10 คนด้านคุณภาพ
ผู้ปกครองและเด็กนักเรียนชั้นอนุบาล2โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม มีความพึงพอใจและใส่ใจในการช่วยกันลดภาวะโลกร้อน โดยการที่เด็กนักเรียนถือถุงผ้าที่ประดิษฐ์มาโรงเรียนแทนถุงพลาสติก
ขั้นตอนและวิธีดำเนินการขั้นวางแผน
1. วางแผนและกำหนดหัวข้อการจัดทำโครงการ
2. เสนอหัวข้อทำโครงการต่ออาจารย์นิเทศก์
3. เขียนโครงการ
4. เสนอโครงการต่ออาจารย์นิเทศก์ ผู้บริหารโรงเรียน และครูประจำชั้นอนุบาล2 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม5. ประสานงานกับโรงเรียนและจัดเตรียมสถานที่
6. กำหนดวัน เวลา และสถานที่ในการจัดทำโครงการ
ขั้นเตรียมการ
1. ติดต่อครูประจำชั้นเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ผู้ปกครองทราบ
ขั้นดำเนินการ
1. ดำเนินการตามโครงการ
ขั้นตรวจสอบ
1. การทำแบบประเมิน ผู้รับผิดชอบโครงการนักศึกษาสาขาวิชาการศึกษาปฐมวัยชั้นปีที่ 3. มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม
วันและเวลาในการดำเนินโครงการ
ตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคม 2553 เป็นต้นไป
สถานที่ดำเนิน
1. ส่งเสริมให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของการช่วยกันลดภาวะโลกร้อน
2. เพื่อสร้างสัมพันธภาพที่ดีภายในครอบครัว
3. เด็กนักเรียนมีความภาคภูมิใจในผลงานที่ร่วมกันทำกับผู้ปกครอง
4. สามารถนำถุงผ้ามาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้
เป้าหมายด้านปริมาณ
ผู้ปกครองนักเรียนชั้นอนุบาล2 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษมเข้าร่วมโครงการจำนวน 10 คนด้านคุณภาพ
ผู้ปกครองและเด็กนักเรียนชั้นอนุบาล2โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม มีความพึงพอใจและใส่ใจในการช่วยกันลดภาวะโลกร้อน โดยการที่เด็กนักเรียนถือถุงผ้าที่ประดิษฐ์มาโรงเรียนแทนถุงพลาสติก
ขั้นตอนและวิธีดำเนินการขั้นวางแผน
1. วางแผนและกำหนดหัวข้อการจัดทำโครงการ
2. เสนอหัวข้อทำโครงการต่ออาจารย์นิเทศก์
3. เขียนโครงการ
4. เสนอโครงการต่ออาจารย์นิเทศก์ ผู้บริหารโรงเรียน และครูประจำชั้นอนุบาล2 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม5. ประสานงานกับโรงเรียนและจัดเตรียมสถานที่
6. กำหนดวัน เวลา และสถานที่ในการจัดทำโครงการ
ขั้นเตรียมการ
1. ติดต่อครูประจำชั้นเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ผู้ปกครองทราบ
ขั้นดำเนินการ
1. ดำเนินการตามโครงการ
ขั้นตรวจสอบ
1. การทำแบบประเมิน ผู้รับผิดชอบโครงการนักศึกษาสาขาวิชาการศึกษาปฐมวัยชั้นปีที่ 3. มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม
วันและเวลาในการดำเนินโครงการ
ตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคม 2553 เป็นต้นไป
สถานที่ดำเนิน
การห้องเรียนชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม
งบประมาณ
งบประมาณ
1. ค่าใช้จ่ายในการเตรียมวัสดุอุปกรณ์ 500 บาท
2. ค่าใช้จ่ายในการทำแบบประเมิน 20 บาท
ประเมินผล
1. แบบสอบถามผู้เข้าร่วมโครงการ
2. จำนวนผู้เข้าร่วมโครงการ
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1. นักเรียนและผู้ปกครองชั้นอนุบาล 2 /2 ตระหนักถึงความสำคัญของการช่วยกันลดภาวะโลกร้อน
2. นักเรียนชั้นอนุบาล2 มีสัมพันธภาพที่ดีภายในครอบครัว
3. เด็กนักเรียนมีความภาคภูมิใจในผลงานที่ร่วมกันทำกับผู้ปกครอง
4. นักเรียนชั้นอนุบาล2 นำถุงผ้ามาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน
1. นักเรียนและผู้ปกครองชั้นอนุบาล 2 /2 ตระหนักถึงความสำคัญของการช่วยกันลดภาวะโลกร้อน
2. นักเรียนชั้นอนุบาล2 มีสัมพันธภาพที่ดีภายในครอบครัว
3. เด็กนักเรียนมีความภาคภูมิใจในผลงานที่ร่วมกันทำกับผู้ปกครอง
4. นักเรียนชั้นอนุบาล2 นำถุงผ้ามาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน
สรุปโครงการแม่ลูกช่วยกันลดภาวะโลกร้อน
โครงการนี้ได้รับความร่วมมือจากผู้ปกครองของนักเรียนชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษมเป็นอย่างดี โดยมีครอบครัวที่เข้าร่วมโครงการจำนวน 10 ครอบครัว และมีข้อเสนอแนะจาก
ผู้ปกครองว่า
-เป็นกิจกรรมที่ดีมากและถุงผ้าก็สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้
-มีการฝึกเด็กเริ่มต้นเป็นเรื่องที่ดีมาก
-ได้ทำกิจกรรมแบบนี้เรื่อย ๆ ก็ดีเหมือนกัน สามารถให้เด็กฝึกทักษะในการวาดรูปและความคิดริเริ่มด้วย
- ทางโรงเรียนน่าจะจัดกิจกรรมต่าง ๆ ให้มากกว่านี้จะได้เสริมสร้างความสัมพันธ์ให้มากกว่านี้(รวมทั้งกิจกรรมในวันสำคัญต่าง ๆ เช่น วันพ่อ วันแม่ )
-เป็นกิจกรรมที่ดีช่วยปลูกฝังให้เด็กได้ร่วมลดภาวะโลกร้อน โรงเรียนควรจะจัดกิจกรรมอย่างนี้บ่อยๆ
วันจันทร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
ครั้งที่ 3 (7ก.ค 53)
วันนี้อาจารย์ให้แต่ละกลุ่มออกมานำเสนองาน ที่ไปหามาว่า มีกิจกรรมอะไร ที่เป็นกิจกรรมลดโลกร้อน โดยมาจัดกับเด็กปฐมวัย เพื่อแต่ละกลุ่มนำเสนอเสร็จแล้ว อาจารย์ก็ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกิจกรรม และให้นักศึกษาแต่กลุ่ม ไปคิดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการจัดกิจกรรม
วันอังคารที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
ถ้าผู้ใหญ่ไม่เข้าใจในธรรมชาติของเด็ก
- ปิดกั้นโอกาสทางการเรียนรู้ของพวกเขาโดยการไม่ให้ความสนใจกับคำถาม
- ไม่ให้ความสนใจกับการค้นพบแบบเด็กๆ
- ไม่จัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่จะส่งเสริมและต่อยอดทักษะและแนวคิดที่ถูกต้องให้กับเด็กอย่างเหมาะสม
ทบทวนบทบาท
- เปิดโอกาสทางการเรียนรู้ของพวกเขา
- ให้ความสนใจกับการค้นพบแบบเด็กๆ
- ครูและผู้ปกครองต้องยอมรับในเรื่องจินตนาการที่มีอยู่สูงในเด็กวัยนี้
- ครูต้องแม่นยำในพัฒนาการของเด็กเพื่อที่จะสามารถจัดการเรียนรู้ได้สอดคล้องกับความสามารถของเด็ก
- ปิดกั้นโอกาสทางการเรียนรู้ของพวกเขาโดยการไม่ให้ความสนใจกับคำถาม
- ไม่ให้ความสนใจกับการค้นพบแบบเด็กๆ
- ไม่จัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่จะส่งเสริมและต่อยอดทักษะและแนวคิดที่ถูกต้องให้กับเด็กอย่างเหมาะสม
ทบทวนบทบาท
- เปิดโอกาสทางการเรียนรู้ของพวกเขา
- ให้ความสนใจกับการค้นพบแบบเด็กๆ
- ครูและผู้ปกครองต้องยอมรับในเรื่องจินตนาการที่มีอยู่สูงในเด็กวัยนี้
- ครูต้องแม่นยำในพัฒนาการของเด็กเพื่อที่จะสามารถจัดการเรียนรู้ได้สอดคล้องกับความสามารถของเด็ก
ครั้งที่ 1 (30มิ.ย53)
เด็กปฐมวัย กับ การเรียนรู้วิทยาศาสตร์
- วิทยาศาสตร์เป็นยาขมสำหรับเด็กๆจริงหรือ?
- ถ้าเด็กๆ เรียนวิทยาศาสตร์ตั้งแต่อนุบาลจะยากเกินไปไหม ?
- ควรจะให้เด็กๆเรียนรู้วิทยาศาสตร์อย่างไร?
- วิทยาศาสตร์เป็นยาขมสำหรับเด็กๆจริงหรือ?
- ถ้าเด็กๆ เรียนวิทยาศาสตร์ตั้งแต่อนุบาลจะยากเกินไปไหม ?
- ควรจะให้เด็กๆเรียนรู้วิทยาศาสตร์อย่างไร?
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)